ลาซาด้า ชูแคมเปญ “ดับเบิล ดิจิต” และเมกะแคมเปญ สร้างความเติบโตแบบก้าวกระโดด
ลาซาด้า ประเทศไทย เผยข้อมูลสำคัญให้แก่ผู้ขายบนแพลตฟอร์มว่า การทำโปรโมชั่นที่ต่อเนื่องและจัดไลฟ์แจกส่วนลด จะช่วยกระตุ้นการขายสินค้าได้เป็นอย่างดี รวมทั้งการทำแคมเปญในเทศกาลต่างๆ จะกระตุ้นการรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์และสนใจแบรนด์มากขึ้น
นายวีระพงศ์ โก รองประธานอาวุโสฝ่ายอีคอมเมิร์ซ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า แม้จะมีความท้าทายหลายอย่างเกิดขึ้นในปี 2563 แต่ลาซาด้า ประเทศไทยก็สามารถเพิ่มจำนวนคำสั่งซื้อ (order) และจำนวนผู้ขายที่ขายได้ (selling seller) มากกว่าสองเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ซึ่งทั้งหมดนี้ เกิดจากการได้รับความสนับสนุนจากผู้ขายของเรา ซึ่งลาซาด้ารู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมาก การได้ทำงานเคียงข้างกันเพื่อช่วยให้ผู้ขายประสบความสำเร็จ นับเป็นประสบการณ์ที่มีค่ายิ่งสำหรับพวกเรา
ลาซาด้าหวังว่าเราจะได้เดินหน้าผลักดันความสำเร็จให้เกิดกับผู้ขายแบบก้าวกระโดด และช่วยเสริมพลังความฝันให้กับผู้ขายในปี 2564 ด้วยเครื่องมือ โซลูชั่น และกลยุทธ์ใหม่ๆ ของเรา
หนึ่งในเครื่องมือสนับสนุนใหม่ของลาซาด้าคือลาซาด้าโบนัส เครื่องมือส่งเสริมการขายที่สามารถใช้ระหว่างร้านค้าบนแพลตฟอร์มลาซาด้า โดยลาซาด้าจะร่วมกับร้านค้าในการออกส่วนลดสำหรับผู้ซื้อเพื่อดึงคนมาที่แพลตฟอร์ม ซึ่งจะนำไปสู่ยอดขายที่เพิ่มขึ้น โดยจะเปิดตัวลาซาด้าโบนัสให้ใช้งานเป็นครั้งแรกในแคมเปญ 3.3 ช้อปแบรนด์ดัง ลดหลายต่อ ซึ่งเป็นแคมเปญนำขบวนเมกะแคมเปญอื่นๆ ที่ต่อคิวรอจะเปิดตัวภายในปีนี้
นอกจากนี้ ยังมี Lazada 9th Birthday Sale ที่จะเปิดตัวในเดือนมีนาคมนี้เช่นกัน จากความสำเร็จของแคมเปญเหล่านี้ในปี 2563 อาทิ แคมเปญ11.11 ที่ผ่านมา สามารถเพิ่มจำนวนผู้ขายที่ขายได้ (selling seller) ได้มากกว่าสามเท่าตัว และเพิ่มจำนวนยอดขายได้ถึงสองเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
โดยกลยุทธ์หลักของลาซาด้าในปีนี้ จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างสรรค์แคมเปญสำหรับผู้ขายในปี 2564
นอกจากนี้ ยังมีนวัตกรรมต่างๆ จากลาซาด้าเพื่อช่วยสนับสนุนผู้ขายอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แพลตฟอร์ม LazLive แพลตฟอร์มไลฟ์สตรีมมิงของลาซาด้าที่ช่วยให้ผู้ขายสามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น
จากสถิติของ ‘LazLive’ ในประเทศไทย ปี 2020 ที่ผ่านมามียอดวิวรวมโตพุ่ง 200% รวมไปถึงช่วยดันยอดขายสินค้าระหว่างไลฟ์ให้โตขึ้นกว่า 100% เมื่อเทียบกับช่วงปีก่อนหน้า ตอบโจทย์ประสบการณ์ช้อปสินค้าแบบเรียลไทม์ See Now Buy Now
ทั้งนี้ ข้อมูลเชิงลึกที่ลาซาด้าค้นพบเพิ่มเติมคือ 29% ของผู้บริโภคต้องการให้การช้อปบนโลกออนไลน์เป็นเรื่องบันเทิงและสนุกสนาน กลยุทธ์ Shoppertainment ของลาซาด้าจึงตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะชาว Gen Z และ Millennials ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคส่วนใหญ่ในลาซาด้า
ด้วยการออกแบบคอนเทนต์แบบ Personalized Content โดยสร้างสรรค์เนื้อหาให้ตรงกับความสนใจที่หลากหลาย ซึ่งจะนำไปสู่การรวมกลุ่ม Online Community ของผู้บริโภคที่มีความสนใจและรสนิยมเดียวกัน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มการมีส่วนร่วมระหว่างกลุ่มคนในคอมมิวนิตี้เดียวกันบนแพลตฟอร์ม
เช่น การกดไลค์-ติดตาม การชักชวนเพื่อน หรือการซื้อ-ขาย เป็นต้น รวมถึงการใช้คนดังหรืออินฟลูเอ็นเซอร์ในรายการ เนื่องจากคนดังยังคงมีอิทธิพลต่อความคิด การดำเนินชีวิต และการตัดสินใจซื้อ
โดยงานวิจัยจากบริษัท Olapic เผยเหตุผลที่คนติดตามอินฟลูเอ็นเซอร์ว่า 66% ติดตามเพราะมีรูปแบบการนำเสนอคอนเทนต์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ และ 31% ซื้อสินค้าหลังจากเห็นอินฟลูเอ็นเซอร์โพสต์บน Social Media
นอกจากนี้ หมวดหมู่สินค้าขายดีในปี 2020 ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ ยานยนต์และอุปกรณ์ เสื้อผ้าผู้หญิง มอเตอร์ไซต์และอุปกรณ์ อุปกรณ์ภายนอกบ้าน เป็นต้น
นอกจากนี้ การโฆษณาอย่างต่อเนื่องโซลูชั่นต่างๆ สำหรับสปอนเซอร์ การเพิ่มการรับรู้ผ่านกิจกรรมประชาสัมพันธ์กับสื่อมวลชน การเป็นพันธมิตรร่วมกับแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ คอร์สพัฒนาทักษะจาก Lazada University ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทีม Lazada Seller Ambassadors หรือ LazSA
ภายในงาน Lazada Mega Seller Conference ได้มีการมอบรางวัลให้กับผู้ขายที่ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ ดังนี้
รางวัลผู้ขายที่มีผลงานยอดเยี่ยม (Top Performer Award) ได้แก่
- Sheephearder Electronics
- Step forward group
- MERGE
- Wonderful Story
- BellaColla Thailand
- Punnita
- iAudio
- Thaidee Homemart
รางวัลการใช้เครื่องมือสนับสนุนยอดเยี่ยม (Top Tools Conversion) ได้แก่
- Ali SHOP
- IHAVECPU
- WATCHEST.BKK
- Flashsale SHOP
- Winchill
รางวัลการบริการลูกค้ายอดเยี่ยม (Top Customer Service) ได้แก่
- NeneToys
- bkkhomecenter
- TNP-Thanapand
รางวัลผู้ขายดาวรุ่งยอดเยี่ยม (Top Rising Star) ได้แก่
- NeneToys
- bkkhomecenter
- TNP-Thanapand
ธุรกิจท้องถิ่นและธุรกิจขนาดย่อม (SME) นับเป็นเส้นเลือดสำคัญของระบบเศรษฐกิจ เราเชื่อมั่นว่าความพยายามของเราที่จะสร้างความแข็งแกร่งและทำให้ธุรกิจ SME ของไทยมีความเป็นดิจิทัล ผ่านการใช้เทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญด้านอีคอมเมิร์ซของเรา จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยและช่วยให้ภาคธุรกิจกลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
ขอบคุณแหล่งที่มา : businesstoday.co