วันนี้ของ “ท็อป บิทคับ”

ถูก “กลุ่มเอสซีบี เอกซ์” เทกระจาดยกเลิกการลงทุนมูลค่ากว่า 17,850 ล้านบาทใน “บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด” (Bitkub Online Co., Ltd.) หลังกระบวนการซื้อขายหุ้นยืดเยื้อนานกว่า 10 เดือน (พ.ย.2564-ส.ค.2565)

ข่าวคราวของ ท็อป-จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบิทคับ แคปปิตอล โฮลดิ้งส์ จำกัด ก็ดูเหมือนว่าจะเลือนหาย พร้อมกันกับราคาสินทรัพย์ดิจิทัล คริปโตเคอร์เรนซีที่อยู่ในภาวะดิ่งเหว

การปรากฏตัวของเขาเมื่อวันที่ 29 พ.ย.2565 ในฐานะผู้บรรยายบนเวทีสัมมนา “Thailand 4.0 ประเทศไทยไปไกลกว่าที่คิด” จัดโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) จึงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นยิ่ง ยืนยันได้จากจำนวนผู้เข้าฟังคับคั่งเต็มพื้นที่ห้องวิภาวดีบอลรูม โรงแรมเซ็นทาราลาดพร้าว

จิรายุส ซึ่งขึ้นบรรยายพิเศษในหัวข้อ “เทรนด์อาชีพ ตอบโจทย์โลกอนาคต” บอกกับผู้ฟังว่า สารพันปัญหาเศรษฐกิจโลก ตั้งแต่ราคาสินค้าแพงดันเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น สงครามรัสเซีย-ยูเครน และการประลองขั้วอำนาจระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ซึ่งกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตหรือ Supply Chain ทั่วโลกคือ Perfect Storm (พายุลูกใหญ่)

 

เมื่อ 40% ของจีดีพีโลกมาจากการซื้อหาสินค้าระหว่างกัน หากประเทศใดเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ย่อมกระทบชิ่งไปยังเศรษฐกิจประเทศอื่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก่อนเฉลยว่าเทรนด์อาชีพใดตอบโจทย์โลกแห่งอนาคต เขาขอแนะนำว่า ปีหน้าจะเป็นที่หนักหนา ทุกคนต้องเก็บเงินสดเอาไว้ อย่าใช้ในสิ่งไม่จำเป็น

“จากที่ผมได้มีโอกาสไปร่วมประชุมสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum หรือ WEF) ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์เมื่อเดือน พ.ค. 2565 ซีอีโอเกือบทั้งหมดไม่มีการวางโรดแม็ปหรือแผนดำเนินงานรองรับปี 2023 พวกเขาข้ามไปพูดถึงโรดแม็ปในปี 2024 ซึ่งอัตราเงินเฟ้อโลกน่าจะลงมาสู่ระดับพอรับได้ที่ 2%”

วันนี้ของ “ท็อป บิทคับ”
สัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยทั่วโลก สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการดึงเงินสดออกจากระบบ ในระยะสั้นสิ่งที่ทั้งตัวบุคคลและบริษัทต้องทำคือ 1.เก็บเงินสดไว้ให้มากที่สุด อย่ากู้ซื้อบ้าน อย่ากู้ซื้อรถ อย่าลงทุนที่มีความเสี่ยง 2.อย่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ต้องยืดเวลาใช้จ่ายออกไปให้นานที่สุด (Delay Consumption) รอให้รอดถึงปี 2567 ซึ่งเป็นจุดที่เงินเฟ้อทั่วโลกน่าจะปรับลดลง

ท่ามกลาง Perfect Storm หากจะให้มองหาโอกาส เขาเห็นใน 4 กระแสหลัก ได้แก่ 1.ความหลากหลาย (Diversity) 2.ต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง (Inclusion) 3.การให้โอกาสทุกคน (Fairness) 4.ความยั่งยืน (Sustainable) อธิบายโดยรวมได้ว่าธุรกิจที่สนับสนุนความหลากหลายทางเพศ ความคิด ฯลฯ การให้โอกาสผู้หญิงเติบโตในระดับบริหารหรือสายอาชีพที่เคยเป็นของเพศชาย เช่น วิศวกร ตลอดจนให้ความสำคัญกับพนักงานในทุกแผนกอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติและการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมโลก ล้วนเป็นกุญแจสู่อนาคต

จาก 4 กระแสหลักที่ว่า นำไปสู่เทรนด์อาชีพแห่งความรุ่งโรจน์ จิรายุสฟันธง คือธุรกิจที่ตอบโจทย์ความยั่งยืน ซึ่งมาพร้อมกับคำยอดฮิตโมเดลเศรษฐกิจใหม่ “BCG” หรือ Bio-Circular-Green Economy (เศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว) เทรนด์แรก ได้แก่ Climate Tech หรือบริษัทเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะสร้างมหาเศรษฐีล้านล้าน (Trillionaire) คนแรกของโลก

“ตอนนี้เราได้เห็นอีลอน มัสก์ ผู้ริเริ่มรถยนต์ไฟฟ้าเทสล่า (Tesla) กลายเป็นมหาเศรษฐีพันล้านในเวลาไม่กี่ปี ผมทำนายว่าในยุคต่อไป Climate Tech จะทำให้เรามีมหาเศรษฐีล้านล้านคนแรกของโลก”

นอกเหนือจาก Climate Tech แล้ว เทรนด์เฟื่องฟูในอนาคตคืออาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นอาหารสังเคราะห์ (Artificial Food) เนื้อสัตว์ที่เพาะจากห้องแล็บ (Lab-grown Meat) เพราะการผลิตอาหาร การเลี้ยงสัตว์เป็นกระบวนการที่ทำลายสิ่งแวดล้อมมาก ประกอบกับพลเมืองโลกที่เพิ่มขึ้นแตะ 8,000 ล้านคนไปเมื่อเดือน พ.ย.2565 และจะเพิ่มขึ้น 1,000 ล้านคนในทุกๆ 10 ปี มนุษยชาติจำเป็นต้องเสาะหาทางเลือกด้านอาหารใหม่ๆ ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เมื่ออาหารสังเคราะห์มีรสชาติใกล้เคียงอาหารจริง จะเกิดจุดเปลี่ยนทันที

สำหรับประเทศไทย จิรายุสมองว่าการพัฒนาสู่การปลูกข้าวที่ไม่ปล่อยก๊าซมีเทน ซึ่งก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก จะช่วยให้ข้าวไทยขายได้ในราคาสูงขึ้นในอนาคต เขายังคิดว่าการเรียนในสายสิ่งแวดล้อมหรือคณะสิ่งแวดล้อมจะทวีความสำคัญไม่ต่างจากการเรียนด้านธุรกิจ

ในวิกฤติทั้งหมด ยังมีเรื่องราวดีๆ เมื่อโลกทั้งใบกำลังหันเข้าหาอาเซียน ตั้งแต่ปี 2024-2034 อาเซียนจะเข้าสู่ยุคทองคำ เงินทุนจะหลั่งไหลเข้ามา อาเซียนจะกลายเป็น Supply Chain ของโลก ซึ่งอินโดนีเซียชิงประกาศตัวแล้วว่าจะขอเป็นศูนย์กลางแห่งความยั่งยืน (Sustainable Hub) และนี่คือโอกาสในการเปลี่ยนสู่กระแส Green สีเขียวที่ใครไม่เปลี่ยน ไม่มีโอกาสรอด.

ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath.co.th

สามารถอัพเดตข่าวสารเรื่องราวต่างๆได้ที่ : eveahmed.com